งานวิจัยมาใหม่แนะนำ
โรคหลอดเลือดหัวใจ (Coronary artery disease; CAD) เป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรังที่สำคัญทางสาธารณสุขทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย การเข้าถึงการสวนหัวใจและฉีดสีหลอดเลือดหัวใจ (Coronary angiography; CAG) และการขยายหลอดเลือดหัวใจด้วยบอลลูนและการใส่ขดลวดเคลือบยา (Percutaneous coronary intervention; PCI) เป็นการตรวจรักษาที่สำคัญสำหรับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจ โดยเฉพาะภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน (Acute coronary syndromes; ACS) ซึ่งมี 2 ประเภท คือ STEMI และ NSTE-ACS สำหรับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจตีบชนิดเรื้อรัง (CCS) ที่จะมาพบแพทย์ที่แผนกผู้ป่วยนอกพบว่ามีความล่าช้าในการเข้าถึงอายุรแพทย์โรคหัวใจ ทำให้ผู้ป่วยทั้ง 2 กลุ่ม ไม่สามารถเข้าถึงบริการสวนหัวใจและฉีดสีหลอดเลือดหัวใจภายในระยะเวลาที่เหมาะสม การศึกษานี้เป็นการศึกษาเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมจากสหสาชาวิชาชีพ ได้แก่ แพทย์ อายุรแพทย์โรคหัวใจ พยาบาลวิชาชีพ เจ้าหน้าที่ประจำห้องเวชระเบียนผู้ป่วยนอก คณะผู้บริหาร สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร โดยร่วมกันสำรวจปัญหา วางแผนความร่วมมือพัฒนาระบบ Seamless Bangkok Heart Network ซึ่งเป็นระบบการเชื่อมต่อและแลกเปลี่ยนข้อมูลทางคลินิก (Health Information Exchange; HIE) ผ่านระบบ cloud technology เพื่อ รับ-ตอบปรึกษาและส่งต่อผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจ มีการเชื่อมต่อข้อมูลทางคลินิกที่ครบถ้วนและปลอดภัย โดยอาศัยการร่วมมือ (Collaboration) ระหว่างสถานพยาบาลแม่ข่าย คือ โรงพยาบาลตากสิน และสถานลูกข่าย ได้แก่ โรงพยาบาลหลวงพ่อทวีศักดิ์ ชุตินฺธโรอุทิศ โรงพยาบาลผู้สูงอายุบางขุนเทียน ศูนย์บริการการแพทย์ฉุกเฉินกรุงเทพมหานคร (ศูนย์เอราวัณ) โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ และโรงพยาบาลกลาง โดยสถานพยาบาลลูกข่ายทั้ง 5 สถานพยาบาล จะส่งตัวผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจมาที่โรงพยาบาลตากสิน โดยเปรียบเทียบอัตราการเข้าถึงการรักษาด้วยการ CAG/PCI ของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจที่ได้รับการส่งตัวผ่านระบบ Seamless Bangkok Heart Network กับการส่งตัวแบบเดิม (conventional referral) สำหรับสถานพยาบาลลูกข่ายจะได้รับการส่งตัวผ่านระบบการส่งตัวแบบใดขึ้นกับผลการสุ่มกลุ่มตัวอย่างแบบกลุ่ม (cluster randomization) ด้วยโปรแกรมทางสถิติ ผลการศึกษาพบว่าปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการรับ-ตอบปรึกษาและส่งต่อผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจสำหรับผู้ป่วย ACS คือ ข้อมูลทางคลินิกไม่ครบถ้วน เช่น ไม่มีผลเลือดเดิม ยาเดิมของผู้ป่วย ความไม่ปลอดภัยของข้อมูลทางคลินิกที่ถูกส่งผ่าน social media platform และจำนวนเตียงของโรงพยาบาลตากสินไม่เพียงพอ ปัญหาการส่งตัวผู้ป่วย CCS คือผู้ป่วยต้องเดินทางมาโรงพยาบาลตากสินหลายครั้งกว่าจะได้ทำการ CAG/PCI ทำให้ผู้ป่วยเสียเวลาเดินทางหลายครั้ง และใช้ระยะเวลานานกว่าจะเข้าถึงการรักษาด้วย CAG/PCI ได้ ผลลัพธ์ในการศึกษาตั้งแต่เดือนตุลาคม พ.ศ. 2567 ถึง มกราคม พ.ศ. 2568 มีจำนวนผู้ป่วยในการศึกษาทั้งหมดจำนวน 32 คน แบ่งเป็นส่งตัวผู้ป่วยหลอดเลือดหัวใจผ่านระบบ Seamless Bangkok Heart Network จำนวน 25 คน มีอายุเฉลี่ย 63.8 ปี เป็นเพศชายร้อยละ 60 และเป็นผู้ป่วย ACS ร้อยละ 60 สำหรับผู้ป่วยที่ส่งตัวผ่านระบบการส่งตัวแบบเดิม (conventional referral) จำนวน 7 คน มีอายุเฉลี่ย 64.1 ปี เป็นเพศชายร้อยละ 71.4 และเป็นผู้ป่วย ACS ร้อยละ 100 อัตราผู้ป่วยได้รับการรักษาด้วย CAG/PCI ภายในระยะเวลาเป้าหมายเปรียบเทียบระหว่างระบบ Seamless Bangkok Heart Network และระบบการส่งตัวแบบเดิม (conventional referral) ได้ผล ดังนี้ สำหรับผู้ป่วย ACS ชนิด STEMI พบว่า diagnosis to wire crossing ภายใน 120 นาที คือ ร้อยละ 66.6 และร้อยละ 40, p=0.46 ตามลำดับ สำหรับผู้ป่วย ACS ชนิด NSTMI ได้รับการ CAG/PCI ภายใน 72 ชั่วโมง คือ ร้อยละ 75 และร้อยละ 100, p=0.64 ตามลำดับ สำหรับผู้ป่วย CCS ได้รับการ CAG/PCI ภายใน 90 วัน ร้อยละ 90 สำหรับผู้ป่วยที่ส่งตัวผ่านระบบ Seamless Bangkok Heart Network แต่พบว่ามีการส่งตัวผู้ป่วยผ่านระบบ Seamless Bangkok Heart Network เท่านั้น ไม่มีผู้ป่วย CCS ส่งตัวผ่านระบบการส่งตัวแบบเดิม (conventional referral) สรุป การส่งตัวผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจผ่านระบบ Seamless Bangkok Heart Network มีแนวโน้มช่วยให้ผู้ป่วยเข้าถึงการรักษาด้วยการ CAG/PCI ภายในระยะเวลาที่เหมาะสมมากยิ่งขึ้นเมื่อเทียบกับระบบการส่งตัวแบบเดิม โดยเฉพาะผู้ป่วย ACS ชนิด STEMI แต่จำนวนผู้ป่วยในการศึกษายังมีน้อยภายในระยะเวลาที่จำกัด ทำให้การประเมินผลทางสถิติมีข้อจำกัดและต้องการการศึกษาต่อเนื่องต่อไปเพื่อเพิ่มจำนวนผู้ป่วยให้เหมาะสม
คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น
คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ สวรส เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ สวรส. ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้