ชั้น 4 อาคารสุขภาพแห่งชาติ เลขที่ 88/39 ถ.ติวานนท์ 14 ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
ขนาดตัวอักษร
-
+
ความตัดกันของสี
C
C
C
icon-lang-thภาษาไทย
ค้นหา
เมนู
จำนวนผู้อ่าน : 119 คน
การสำรวจสถานการณ์ราคายาและออกแบบนโยบายราคายาของประเทศไทย (ฉบับภาษาอังกฤษ)
นักวิจัย :
ชะอรสิน สุขศรีวงศ์ , ศนิตา หิรัญรัศมี , กุสาวดี เมลืองนนท์ , สิริวัฒน์ สุวัฒนปรีดา , ถิรพิชญ์ เจือจันทร์ ,
ปีพิมพ์ :
2567
สนับสนุนโดย :
สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข
วันที่เผยแพร่ :
11 กันยายน 2567

ที่มา มาตรการของภาครัฐฯ ที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดราคายาได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2524 ที่มีการพัฒนานโยบายแห่งชาติด้านยาฉบับแรกของประเทศไทย จึงควรมีการวิจัยเพื่อประเมินผลกระทบต่อราคายาที่เกิดจากมาตรการต่างๆ เพื่อนำเสนอนโยบายราคายา การกำกับดูแลระบบราคายาที่เหมาะสม ระเบียบวิธีวิจัย การวิจัยแบบผสม โดยการวิจัยเชิงปริมาณ ใช้ฐานข้อมูลการซื้อยาจากกรมบัญชีกลาง ปีงบประมาณ พ.ศ. 2561- 2565 (1 ตุลาคม พ.ศ. 2560-30 กันยายน พ.ศ. 2565) รวม 5 ปี กลุ่มตัวอย่างยาจัดแบ่งตามกลุ่มการรักษายาที่มีผู้ผลิต/ผู้นำเข้าเพียงรายเดียว และหลายราย ยาชีววัตถุ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรม excel การวิจัยเชิงคุณภาพ เก็บข้อมูลโดยนำผลการวิจัยเชิงปริมาณเข้าสู่ที่ประชุมกลุ่มผู้ที่เกี่ยวข้องและมีส่วนได้ส่วนเสียกับราคายา วิเคราะห์เนื้อหาจากการประชุมกลุ่มจัดทำเป็นร่างนโยบายแห่งชาติด้านยาที่จะใช้เป็นแนวทางการกำกับดูแลราคายา ผลการศึกษาได้นำเสนอร่างนโยบายแห่งชาติด้านยา โดยใช้ผลจากการวิเคราะห์ ดังนี้ 1) จากการวิจัยเชิงปริมาณ พบว่า ราคากลางเป็นมาตรการควบคุมราคายาที่มีผลต่อราคาจัดซื้อมากกว่ามาตรการอื่นๆ วิธีการจัดซื้อมีผลต่อราคาซื้อยาต้นแบบไม่แตกต่างกันมาก แต่มีผลต่อยาสามัญโดยพบว่าราคายาลดลง ยาต้นแบบที่มีผู้จำหน่ายรายเดียวพบราคาซื้อแตกต่างกันระหว่างโรงพยาบาล การมียาคู่แข่งขันเพิ่มทำให้ราคาลดลง ระยะทางไม่มีผลต่อราคาจัดซื้อ 2) การวิจัยเชิงคุณภาพ ได้ข้อมูลมาตรการใหม่ที่ควรทำ เช่น การกำหนดให้ยามีราคาเดียวจะช่วยให้สามารถจัดซื้อยากลุ่มนี้ได้ในราคาที่ไม่แตกต่างกัน ยาราคาแพงและอยู่ในชุดสิทธิประโยชน์ของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติควรใช้วิธีการต่อรองราคาและการจัดซื้อรวม ควรมีการกำหนดราคาในระดับก่อนออกจำหน่ายโดยเฉพาะยาราคาแพงและยาต้นแบบ ปรับกระบวนการต่อรองราคาและกระบวนการจัดซื้อที่เหมาะสมกับยาแต่ละประเภท สรุป รัฐควรจัดให้มีนโยบายแห่งชาติด้านราคายาที่เหมาะสมกับประเทศไทย พัฒนาระบบการควบคุมกำกับราคายา ตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทานให้มีประสิทธิภาพบนพื้นฐานของการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ครอบคลุมการจัดทำหลักเกณฑ์กำหนดราคากลาง และกำหนดราคายาให้เหมาะสมกับความสามารถในการจ่าย เพื่อประโยชน์ในการวางแผนด้านงบประมาณของประเทศ ความเป็นธรรมของการเข้าถึงยา และการพัฒนาอุตสาหกรรมผลิตยาในประเทศ กุญแจของความสำเร็จของแผนการพัฒนานโยบายแห่งชาติด้านราคายา ควรประกอบด้วย Flow SEB ดังนี้ คือ F: Flow of work S: Single policy E: Exclusive authorized organization B: Bundle measures


ลิงก์ต้นฉบับ : https://kb.hsri.or.th/dspace/handle/11228/6144

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เราใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดบนเว็บไซต์ของเรา โปรดศึกษาเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

จัดการความเป็นส่วนตัว
คุกกี้ที่มีความจำเป็น
(Strictly Necessary Cookies) เปิดใช้งานตลอด

คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ สวรส เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ สวรส. ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้