ชั้น 4 อาคารสุขภาพแห่งชาติ เลขที่ 88/39 ถ.ติวานนท์ 14 ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
ขนาดตัวอักษร
-
+
ความตัดกันของสี
C
C
C
icon-lang-thภาษาไทย
ค้นหา
เมนู

สวรส. ระดมเครือข่ายร่วมต่อจิ๊กซอว์ ‘ระบบสุขภาพ’ พร้อมจัดทัพภาคี มุ่งเป้า ‘คนไทยอายุยืนยาวอย่างมีสุขภาพดี’

          จากการตั้งต้นเรื่องการประเมินความคุ้มค่าเพื่อพัฒนาองค์การมหาชน โดยสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ซึ่งเป็นการประเมินฯ เพื่อหาคำตอบถึงประโยชน์และความคุ้มค่าของแต่ละองค์กร หากแต่สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) มองภาพใหญ่มากกว่านั้น เนื่องจากการขับเคลื่อนการดำเนินงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะการที่จะทำให้คนไทยมีอายุยืนยาวอย่างมีสุขภาพดี ควรต้องเห็นภารกิจที่เชื่อมโยงและหนุนเสริมกันของทุกภาคี เพื่อมุ่งไปสู่เป้าหมายเดียวกัน ดังนั้น สวรส. จึงจัดการประชุมกำหนดเป้าหมายการดำเนินงานเพื่อคนไทยมีอายุยืนยาวอย่างมีสุขภาพดี เพื่อรับฟังบทบาทและกลยุทธ์ในระบบนิเวศสุขภาพจากหน่วยงานภาคีต่างๆ ผ่านการมองระบบนิเวศภาพใหญ่ของประเทศร่วมกัน เพื่อให้เห็นบทบาทขององค์กรต่างๆ และการดำเนินงานที่มีความเกี่ยวข้องกันในระบบนิเวศ (Ecosystem) โดยมีผู้แทนจากองค์กรที่เกี่ยวข้อง มาร่วมให้ความคิดเห็น อาทิ กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) สถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (องค์การมหาชน) (สรพ.) สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) สถาบันวัคซีนแห่งชาติ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) โรงพยาบาลบ้านแพ้ว (องค์การมหาชน) สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ฯลฯ ตลอดจนรับฟังแนวทางการจัดลำดับความสำคัญและการบูรณาการ เพื่อเป็นฐานในการกำหนดกลยุทธ์ร่วมกัน สู่การผลักดันให้เกิดผลลัพธ์ของระบบสุขภาพที่พึงประสงค์ โดยมี นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข เป็นประธานการประชุม เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 2568 ณ โรงแรมอัศวิน แกรนด์ คอนเวนชัน  

          นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาสุขภาพของผู้คน โดยมีเป้าหมายเพื่อให้คนไทยมีอายุยืนยาวอย่างมีสุขภาพดี ไม่สามารถทำได้ด้วยองค์กรใดองค์กรหนึ่ง ในขณะที่ ก.พ.ร. พยายามที่จะให้มีการจัดทำระบบนิเวศของแต่ละองค์กร ซึ่งในความจริงแล้วควรเป็นการจัดทำระบบนิเวศภาพรวมร่วมกัน เพื่อให้เห็นว่า ภาพใหญ่ในการขับเคลื่อน ใครอยู่ตรงไหนและมีบทบาทอย่างไร เพื่อการเชื่อมโยงและการบูรณาการ ในการผลักดันให้เกิดเป้าหมายเดียวกัน ภายใต้บทบาทที่แตกต่างกันไป พร้อมทั้งมีการหนุนเสริมและเชื่อมโยงซึ่งกันและกัน รวมถึงการผลักดันให้เกิดระบบกลาง เพื่อสนับสนุนให้เกิดความสำเร็จ ดังนั้นแต่ละองค์กรจึงต้องมาช่วยกันออกแบบระบบนิเวศของระบบสุขภาพประเทศไทยร่วมกัน โดยต้องเห็นกระดานต่อภาพจิ๊กซอว์เดียวกัน และรู้ว่าเราทำหน้าที่อยู่ส่วนไหนของระบบใหญ่ รวมถึงกำลังขับเคลื่อนอะไรเพื่อให้เกิดภาพใหญ่ที่สวยงาม

          “ความยากของการจัดทำระบบนิเวศของระบบสุขภาพในช่วงแรก เนื่องจากระบบสุขภาพเป็นเรื่องที่มีหลากหลายมิติ และเกี่ยวข้องกับผู้คนตั้งแต่ตั้งครรภ์ แรกเกิด เติบโต ไปจนถึงช่วงท้ายของชีวิต รวมทั้งต้องทำให้แต่ละองค์กรเข้าใจและเป็นส่วนหนึ่งของกระดานสุขภาพเดียวกัน และมองเห็นว่าจะเดินไปสู่เป้าหมายปลายทางด้วยกันได้อย่างไร ซึ่งถ้าทำสำเร็จ การวิเคราะห์ระบบนิเวศของระบบสุขภาพน่าจะเป็นตัวอย่างที่สำคัญให้กับระบบอื่นๆ เช่น ระบบยุติธรรม ระบบอุตสาหกรรม ระบบการเกษตร ฯลฯ ของประเทศ สามารถนำไปจัดทำระบบนิเวศในลักษณะนี้ได้เช่นกัน” นพ.ศุภกิจ กล่าว

          ในการประชุมได้มีการนำเสนอร่างระบบนิเวศเพื่อคนไทยมีอายุยืนยาวอย่างมีสุขภาพดี โดย อ.มัลลิกา ตราชู ที่ปรึกษาโครงการวิเคราะห์ระบบนิเวศ (Ecosystem) เพื่อร่วมผลักดันให้คนไทยมีอายุยืนยาวอย่างมีสุขภาพดี ซึ่งเน้นการออกแบบระบบสุขภาพตามช่วงอายุ ครอบคลุมถึงกลุ่มเปราะบางและกลุ่มเฉพาะ เพื่อให้ทุกคนในทุกช่วงชีวิตสามารถเข้าถึงการส่งเสริม ป้องกัน รักษา ฟื้นฟู ได้อย่างเท่าเทียมและต่อเนื่อง สู่เป้าหมายการมีอายุยืนยาวอย่างมีสุขภาพดี ทั้งนี้อายุคาดเฉลี่ยของการมีสุขภาพดี หรือ Health-Adjusted Life Expectancy (HALE) คือ จำนวนปีที่คาดว่าบุคคลหนึ่งจะมีชีวิตอยู่โดยมีสุขภาพที่ดีทั้งทางร่างกายและจิตใจ หลังจากหักลบช่วงเวลาที่มีสุขภาพย่ำแย่แล้ว จากอายุคาดเฉลี่ยรวม (Life Expectancy) โดยตั้งต้นตั้งแต่การจัดทำนโยบายสุขภาพของประเทศ ทั้งการพัฒนานโยบายสาธารณะเพื่อสุขภาพ ซึ่งเป็นนโยบายข้ามภาคส่วนที่มีผลต่อสุขภาพ เช่น คมนาคม สิ่งแวดล้อม ฯลฯ และนโยบายสาธารณสุขที่เน้นการขับเคลื่อนในภาคสุขภาพเป็นหลัก โดยการใช้ข้อมูลและหลักฐานเชิงประจักษ์ และการมีส่วนร่วมของประชาชนและภาคี เพื่อนำไปสู่การมีนโยบายที่ดี ภายใต้การบูรณาการในทุกนโยบาย ควบคู่กับการสร้างกลไกติดตามประเมินผล และบังคับใช้ แล้วจึงมาพิจารณาในระบบย่อยๆ อย่าง ระบบบริการสุขภาพ กำลังคนด้านสุขภาพ การเข้าถึงยา เวชภัณฑ์ที่จำเป็น การเงินการคลังด้านสุขภาพ ระบบสารสนเทศและข้อมูลด้านสุขภาพ การสร้างสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการสร้างเสริมสุขภาพ การสร้างพันธมิตรของภาคีเครือข่ายและการมีส่วนร่วม การเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชน การเสริมสร้างทักษะส่วนบุคคล 
  
          ทั้งนี้จากการระดมความคิดเห็น มีความคิดเห็นที่น่าสนใจ อาทิ การเพิ่มเติมเรื่องการจัดทำธรรมนูญสุขภาพ การดูแลผู้ป่วยระยะท้ายแบบประคับประคอง การคำนึงถึงนโยบาย One Region One Province One Hospital การจัดวางบทบาทการให้บริการปฐมภูมิที่ครอบคลุมทุกสังกัด ภายใต้การถ่ายโอนภารกิจของ รพ.สต. ในประเด็นของกำลังคนด้านสุขภาพ ควรระบุในมิติที่เป็นเรื่องกำลังคนเป็นหลัก ไม่เกี่ยวกับเทคโนโลยี เพื่อให้เห็นสิ่งที่ต้องทำเกี่ยวกับเรื่องกำลังคนว่ามีอะไรบ้าง ซึ่งกำลังคนควรรวมทุกกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับด้านสุขภาพ โดยเรียกว่า HRH (Human Resource for Health) เช่น อสม. ด้วย ควรเพิ่มกลุ่มบุคลากรสนับสนุนด้านการวิจัยสุขภาพ ผู้เยี่ยมสำรวจในการรับรองคุณภาพสถานพยาบาล ซึ่งเป็นอีกกลุ่มที่สำคัญในการพัฒนาระบบสุขภาพ ควรมีการระบุถึงการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก การกระจายเพื่อให้เข้าถึงยาและเวชภัณฑ์ที่จำเป็นควรรวมถึงร้านยาและภาคเอกชนด้วย เป็นต้น

รูปภาพเพิ่มเติม

แสดงความคิดเห็น

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เราใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดบนเว็บไซต์ของเรา โปรดศึกษาเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

จัดการความเป็นส่วนตัว
คุกกี้ที่มีความจำเป็น
(Strictly Necessary Cookies) เปิดใช้งานตลอด

คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ สวรส เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ สวรส. ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้