ข่าว/ความเคลื่อนไหว
ปัจจุบันเทคโนโลยีทางการแพทย์มีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ส่งผลต่อการพัฒนาระบบสุขภาพและการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยงานวิจัยทางคลินิกนับเป็นหัวใจสำคัญ เนื่องจากเป็นกระบวนการที่ช่วยพัฒนาเทคโนโลยีทางการแพทย์ ทั้งที่เป็นยา อุปกรณ์ รวมถึงแนวทางการรักษาใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์การดูแลผู้ป่วยในโรคที่ซับซ้อนและหายาก จากรายงานสถานการณ์ทั่วโลกพบว่า แนวโน้มการทำวิจัยและพัฒนา (R&D) ด้านการแพทย์ยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศจีน สหรัฐอเมริกา แอฟริกา และประเทศในเอเชียตามลำดับ สำหรับประเทศไทยมีปัจจัยสนับสนุนหลายประการ โดยในการประเมินศักยภาพในการเป็นสถานที่ทำวิจัยทางคลินิก ประเทศไทยถูกจัดอยู่ในกลุ่ม opportunity tier เนื่องจากมีจำนวนผู้ป่วยที่พร้อมเข้าสู่การรักษาจำนวนมาก จึงมีโอกาสที่ผู้สนับสนุนการวิจัย (sponsors) สามารถหาอาสาสมัครเพื่อเข้าร่วมโครงการวิจัยพัฒนายาหรือผลิตภัณฑ์ใหม่ได้มาก สามารถทดแทนกลุ่มประเทศดั้งเดิมอย่างยุโรปหรืออเมริกา ซึ่งมีค่าใช้จ่ายในการทำวิจัยสูง
และเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2568 - สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) และบริษัทโนโว นอร์ดิสค์ ฟาร์มา (ประเทศไทย) จำกัด ได้ร่วมลงนามบันทึกความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนครั้งสำคัญ เพื่อยกระดับมาตรฐานวิจัยทางคลินิก และสนับสนุนให้เกิดการขยายโอกาสของการดำเนินงานด้านการวิจัยทางคลินิกในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น โดยมี นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข ลงนามร่วมกับ คุณเอ็นริโก้ คานัล บรูแลนด์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท โนโว นอร์ดิสค์ ฟาร์มา (ประเทศไทย) จำกัด และ ฯพณฯ นายแดนนี อันนัน เอกอัครราชทูตเดนมาร์กประจำประเทศไทย ร่วมเป็นสักขีพยาน ณ ห้องมาตุลี 2 โรงแรมอัศวิน แกรนด์ คอนเวนชั่น
นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข กล่าวว่า สวรส. ในฐานะหน่วยบริหารจัดการทุนวิจัยระบบสุขภาพของประเทศ และเป็นแกนหลักในการขับเคลื่อนการวิจัยทางคลินิกของประเทศไทย (Thailand Clinical Research Collaboration หรือ Thailand CRC) เรามองเห็นความหวังในการขับเคลื่อนเรื่องดังกล่าว เนื่องจากประเทศไทยมีต้นทุนและความพร้อม ทั้งในด้านโครงสร้างการบริหารระดับประเทศ และการจัดการทรัพยากรสาธารณสุข ได้แก่ สถานพยาบาลทุกระดับ ตั้งแต่โรงเรียนแพทย์ที่มีศักยภาพสูงไปจนถึงสถานพยาบาลระดับปฐมภูมิที่กระจายอย่างทั่วถึงในทุกภูมิภาค มีสถาบันการศึกษาชั้นนำสำหรับผลิตแพทย์และบุคลากรสาธารณสุขหลากหลายสาขา ตลอดจนการมีสถานพยาบาลและระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าที่ครอบคลุมประชาชนทั้งประเทศ เป็นต้น ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้เกิดการเข้าถึงบริการสุขภาพที่จำเป็นของประชาชนอย่างกว้างขวาง
นพ.ศุภกิจ กล่าวต่อว่า แต่ในความพร้อมและต้นทุนที่มี ยังต้องมีการพัฒนาระบบสนับสนุนด้านอื่นๆ เพิ่มเติม ทั้งการพัฒนาศักยภาพศูนย์วิจัยคลินิกที่ได้มาตรฐานสากลให้กระจายไปยังสถานพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุข และมีการดำเนินงานร่วมกันเป็นเครือข่าย การพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้และประสบการณ์ด้านการวิจัยคลินิก รวมทั้งการบริหารจัดการให้เกิดระบบนิเวศที่สนับสนุนให้เกิดการดำเนินการวิจัยทางคลินิกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนการบูรณาการระหว่างผู้ดูแลกฎหมายในส่วนกลางและจริยธรรมงานวิจัย การสร้างระบบจัดการข้อมูลสุขภาพ ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างเศรษฐกิจทางด้านสุขภาพให้กับประเทศ และเป็นช่องทางในการเข้าถึงยาใหม่ของอาสาสมัครโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
“สวรส. ซึ่งเป็นหน่วยงานที่กระทรวงสาธารณสุขเห็นชอบให้จัดตั้งเครือข่ายศูนย์วิจัยคลินิกระดับประเทศ ซึ่งเรามีเป้าหมายที่จะพัฒนาศักยภาพศูนย์วิจัยทางคลินิกที่ได้มาตรฐาน จำนวน 30 ศูนย์ พัฒนาบุคลากรทั้งแพทย์ พยาบาล เภสัชกร นักวิจัย ฯลฯ พัฒนาระบบจัดการงานวิจัยเพื่อรองรับงานวิจัยยาและผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ พัฒนาระบบสารสนเทศงานวิจัยทางคลินิกในประเทศ ตลอดจนการขับเคลื่อนการดำเนินงานในรูปแบบเครือข่าย และได้พัฒนาความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนที่มีภารกิจทางด้านสุขภาพที่เกี่ยวข้อง ดังเช่นในวันนี้ ซึ่งได้ร่วมกับบริษัท โนโว นอร์ดิสค์ ที่มีประสบการณ์ในการดำเนินการวิจัยทางคลินิก และเป็นผู้นำด้านการดูแลสุขภาพระดับโลก ซึ่งความร่วมมือในครั้งนี้ จะนำไปสู่การขยายโอกาสในการดำเนินงานด้านการวิจัยทางคลินิกในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น ตลอดจนการพัฒนาศักยภาพบุคลากร และยกระดับระบบสุขภาพให้เข้มแข็ง ควบคู่กับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศได้อีกทางหนึ่ง” นพ.ศุภกิจ ทิ้งท้าย
คุณเอ็นริโก้ คานัล บรูแลนด์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท โนโว นอร์ดิสค์ ฟาร์มา (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า โนโว นอร์ดิสค์ เห็นถึงศักยภาพในการเป็นผู้นำการวิจัยพัฒนาระบบสุขภาพของประเทศไทยของ สวรส. จึงเชื่อมั่นว่าความร่วมมือกับ สวรส. ในครั้งนี้ จะช่วยส่งเสริมการพัฒนาและการดำเนินการวิจัยทางคลินิกในประเทศไทยให้มีมาตรฐาน และมีศักภาพในการรองรับการลงทุนทางด้านการวิจัยทางคลินิกมากขึ้น รวมทั้งเพิ่มโอกาสให้คนไทยสามารถเข้าถึงยาที่เป็นนวัตกรรมใหม่ๆ ลดอัตราการเสียชีวิต และลดความชุกของโรคต่างๆ
“ที่ผ่านมา โนโว นอร์ดิสค์ ให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทดลองทางคลินิก รวมถึงมีการขับเคลื่อนนวัตกรรม เพื่อยกระดับผลลัพธ์ด้านสุขภาพ และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสังคมมาโดยตลอด โดยในช่วงปี 2563 - 2566 โนโว นอร์ดิสค์ มีการเติบโตในการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาในประเทศไทย ถึง 25 เปอร์เซ็นต์ต่อปี และระหว่างปี 2562 - 2566 บริษัทได้ลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาเป็นเงิน 370 ล้านบาท ซึ่งการลงทุนดังกล่าวและความร่วมมือกันในวันนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและความพร้อมที่จะมีการดำเนินงานร่วมกันในอนาคต รวมถึงโอกาสของการสร้างศักยภาพร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชน ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดของงาน Clinical Trials Day 2025 ที่มุ่งเน้นความร่วมมือในการสร้างสรรค์นวัตกรรมและพัฒนาความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และมั่นใจว่าความร่วมมือครั้งนี้จะสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อประโยชน์ของคนไทยโดยรวม” คุณเอ็นริโก้ คานัล บรูแลนด์ กล่าว
การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในวันนี้ นับเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือที่จะเร่งให้เกิดการขับเคลื่อนการวิจัยทางคลินิกในประเทศไทยให้มีมาตรฐาน มีศักยภาพเพียงพอต่อการพัฒนาระบบวิจัยทางคลินิก และสามารถยกระดับการดูแลสุขภาพ ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนและความเข้มแข็งของระบบสุขภาพไทยในระยะยาว
คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น
คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ สวรส เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ สวรส. ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้