4th Floor, National Health Building 88/39 Tiwanon 14 Road Taradkwan, Muang District Nonthaburi 11000
Font Size
-
+
color contrast
C
C
C
Search
เมนู

‘AI แชทบอท’ เพื่อนคุยแก้ปัญหาสุขภาพจิต วิจัยนวัตกรรมเพื่อคนไทยสุขภาพจิตดี

          วิถีชีวิตอันเร่งรีบ การแข่งขัน ตลอดจนปัญหาทางสังคม ความเหลื่อมล้ำ ความรุนแรง ยาเสพติด ฯลฯ ส่งผลให้คนในสังคมเกิดภาวะเครียด และปัญหาด้านจิตใจมากขึ้น ซึ่งผลสำรวจของสหประชาชาชาติ (UN) พบว่า ความสุขของประเทศไทยกำลังลดลง จากรายงาน World Happiness Report ปี 2023 ที่ระบุว่า ค่าเฉลี่ยความสุขของประชากรไทยอยู่ในลำดับที่ 60 ของโลก หากพิจารณาเปรียบเทียบระหว่างค่าเฉลี่ยช่วงปี 2562-2564 กับช่วงปี 2563-2566 จะพบว่า จากที่เคยอยู่ที่ 5.891 ได้ลดลงมาอยู่ที่ 5.843 [1]
 
          หากมองย้อนกลับมาที่สถานการณ์สุขภาพจิตคนไทย ข้อมูลจากกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข ในปี 2566 พบว่า ประเทศไทยมีผู้ป่วยด้านสุขภาพจิตมากถึง 256,000 คน และในจำนวนนี้เป็นผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับการรักษามากถึง 28,775 คน [2] และยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แต่ทว่า ในแง่ของบุคลากรทางการแพทย์ด้านสุขภาพจิตกลับมีไม่เพียงพอ ปัจจุบันมีจิตแพทย์อยู่ประมาณ 845 คน คิดเป็น 1.28 คนต่อแสนประชากร นักจิตวิทยา (คลินิก) มีประมาณ 1,037 คน คิดเป็น 1.57 คนต่อแสนประชากร และพยาบาลจิตเวช 4,064 คน คิดเป็น 6.14 คนต่อแสนประชากรเท่านั้น [3] 

          อัตราการป่วยไข้จนถึงขั้นจำเป็นต้องได้รับการรักษาที่เพิ่มขึ้น ภายใต้ข้อจำกัดด้านบุคลากรทางการแพทย์กำลังทำให้ปัญหานี้รุนแรงมากขึ้น สิ่งหนึ่งที่จะช่วยลดระดับความรุนแรงของสถานการณ์ลงได้คือการ ‘คัดกรองสุขภาพจิต’ เพื่อดูแลอย่างเท่าทัน ป้องกันไม่ให้ต้องกลายเป็น ‘ผู้ป่วย’ ที่ถึงขั้นต้องเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาล ดังนั้นในฐานะหน่วยงานที่สนับสนุนทุนวิจัยเพื่อให้เกิดการนำงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ในระบบสุขภาพ สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) จึงเข้ามาร่วมสนับสนุนงานวิจัย เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการคิดค้นนวัตกรรมที่จะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาดังกล่าว

          นวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในรูปแบบของ แพลตฟอร์มสำหรับการสร้างเครื่องมือช่วยเหลือทางจิตใจ ด้วยเทคโนโลยีหุ่นยนต์โต้ตอบอัตโนมัติ (แชทบอท) โดยมี ดร.กลกรณ์ วงศ์ภาติกะเสรี นักวิจัยเครือข่าย สวรส. จากศูนย์เทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านสุขภาพจิตประเทศไทย คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นหัวหน้าทีมวิจัยในการคิดค้นวิจัยนวัตกรรมในครั้งนี้ 

          สำหรับงานวิจัยนี้เป็นการสร้างแพลตฟอร์ม AI เพื่อการสร้างแชทบอทปัญญาประดิษฐ์ด้านสุขภาพจิตที่สามารถรับข้อมูล ทำการวิเคราะห์ ตอบโต้ผ่านระบบแชทบอทกับคนได้ โดยมีระบบจัดเก็บข้อมูล, ระบบประเมินผล และระบบโต้ตอบเพื่อคุยบรรเทาปัญหาสุขภาพจิตในเบื้องต้น ทั้งนี้จุดเด่นคือทำให้องค์กรหรือหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลด้านสุขภาพจิตของประชาชน สามารถร่วมออกแบบข้อมูลและนำไปปรับใช้ให้สอดคล้องกับบริบทการดำเนินงานของหน่วยงานได้อย่างสะดวก ประหยัดงบประมาณ 

          นายกีรติ ปัทมเรขา นักวิจัยเครือข่าย สวรส. หนึ่งในทีมวิจัยโครงการนี้ กล่าวว่า ปัจจุบันมีโรงพยาบาล มหาวิทยาลัย และโรงเรียน กว่า 40 หน่วยงาน ได้นำไปใช้งานจริงแล้ว โดยบุคลากรด้านสุขภาพจิตของแต่ละหน่วยงานสามารถพัฒนาแชทบอทบนแพลตฟอร์มนี้ได้โดยไม่ต้องพึ่งพิงผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี ทำให้ประยุกต์ใช้ความรู้และความเชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตเพื่อขยายขอบเขตการให้บริการได้อย่างกว้างขวางมากขึ้น 

          ดร.กลกรณ์ นักวิจัยเครือข่าย สวรส. ในฐานะหัวหน้าทีมนักวิจัย เล่าถึงที่มาของนวัตกรรมนี้ว่า ทีมนักวิจัยที่ประกอบด้วยนักเทคโนโลยีและนักจิตวิทยา ได้ร่วมกันสร้างแพลตฟอร์มกลางในการสร้างเครื่องมือสำหรับบำบัดจิตใจด้วยระบบ AI แชทบอท ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่คิดค้นขึ้นสำหรับนักจิตวิทยาโดยเฉพาะ โดยสามารถออกแบบชุดบทสนทนาสุขภาพจิตที่ต้องการได้เอง ซึ่งจะตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการรักษาดูแล จากนั้น AI จะทำหน้าที่ประมวลชุดบทสนทนาเพื่อใช้โต้ตอบสนทนากับผู้ใช้ระบบ ทำให้นักจิตวิทยามีระบบแชทบอทที่ดูแลสุขภาพจิตได้อย่างเฉพาะเจาะจงมากขึ้น 

          ทั้งนี้ แพลตฟอร์มกลางนี้ สามารถช่วยลดต้นทุนให้กับหน่วยงานต่างๆ ที่ต้องการมีระบบแชทบอทเพื่อเก็บข้อมูล และประเมินสุขภาพจิต ซึ่งหากจ้างบริษัทเอกชนสร้างระบบฯ ให้ จะมีค่าใช้จ่ายหลายล้านบาท นอกจากนั้นยังใช้งานง่าย บุคลากรด้านสุขภาพจิตไม่จำเป็นต้องมีความรู้เรื่องการเขียนโปรแกรมก็ใช้งานได้ เพราะเป็นแพลตฟอร์มกลางที่พัฒนาขึ้นเพื่อให้สามารถรับข้อมูลในรูปแบบ Drag & Drop ซึ่งสามารถส่งชุดข้อมูลที่เป็นแนวหัวข้อของบทสนทนาแต่ละรูปแบบเข้าไป ระบบก็จะประมวลผลและนำไปเป็นข้อมูลในแชทบอทที่เตรียมสำหรับใช้งานได้ต่อไป 

          ดร.กลกรณ์ ย้ำด้วยว่า ปัจจุบันมีหน่วยงานต่างๆ นำแพลตฟอร์มกลางสำหรับการสร้างเครื่องมือบำบัดจิตวิทยาด้วยระบบ AI ไปใช้งานจริงแล้ว ซึ่งมีทั้งสถานพยาบาล สถาบันศึกษาทุกระดับ ขณะเดียวกัน ข้อมูลต่างๆ ก็มีการจัดเก็บอย่างถูกกฎหมายและมีความปลอดภัยที่ศูนย์เทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านสุขภาพจิตประเทศไทย เพื่อรวบรวมเป็นข้อมูลและส่งกลับไปในแต่ละพื้นที่ที่ต้องการ รวมถึงเป็นข้อมูลสำหรับผู้กำหนดนโยบายด้านสุขภาพจิตของประเทศด้วย 

          “ที่ผ่านมา สวรส. ได้สนับสนุนการวิจัยให้เกิดนวัตกรรมนี้ขึ้นมา โดยเฟสแรกมีการสนับสนุนจนเกิดเป็นแพลตฟอร์มกลางนี้ขึ้นมา และมีการนำไปทดลองใช้ ต่อมาในเฟสที่ 2 ซึ่งเป็นระยะปัจจุบัน สวรส. ก็ยังได้สนับสนุนให้มีการพัฒนาระบบเพิ่มเติม เพื่อให้ใช้งานได้สะดวกมากขึ้น และสนับสนุนให้แต่ละหน่วยงานนำไปใช้งานให้กว้างขวางมากขึ้น จนทำให้ได้ข้อมูลด้านสุขภาพจิตจากหลายพื้นที่ และทำให้หน่วยงานที่รับผิดชอบสามารถนำข้อมูลที่ประมวลผลได้ไปวางแผนดูแลและแก้ปัญหาด้านสุขภาพจิตของแต่ละกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ” 
ดร.กลกรณ์ กล่าว

          ด้าน ดร.จุไรรัตน์ พรมใจ ผู้จัดการงานวิจัย สวรส. กล่าวว่า ปัญหาด้านสุขภาพจิตเป็นอีกหนึ่งปัญหาสำคัญในระบบการดูแลสุขภาพประชาชน ซึ่งนับวันจะมีปัญหาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ งานวิจัยจึงเข้าไปมีส่วนช่วยในการสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาเชิงระบบ ทั้งในแง่ของการช่วยลดภาระบุคลากรด้านสุขภาพจิตที่ปัจจุบันยังไม่สามารถจัดการให้มีเพียงพอในระบบได้ และสนับสนุนให้นำนวัตกรรมงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ในการประมวลผลเพื่อนำมาวางแผนการดูแลสุขภาพจิตให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายของแต่ละหน่วยงานมากขึ้น สำหรับการสนับสนุนทุนวิจัยในระยะต่อไป สวรส. และทีมวิจัยจะเน้นไปที่การสร้างพื้นที่จังหวัดต้นแบบ ที่มีการนำแพลตฟอร์มกลาง ซึ่งเป็นระบบ AI แชทบอทนี้ไปใช้ทั้งจังหวัด เพื่อให้สามารถวัดผลได้ว่า เมื่อมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเรื่องสุขภาพจิตแล้ว ภาพรวมในเรื่องของการดูแลและให้บริการด้านสุขภาพจิตของทั้งจังหวัดจะเป็นอย่างไร ซึ่ง สวรส. และทีมวิจัย มุ่งหวังที่จะให้ข้อมูลด้านสุขภาพจิตจากการใช้ระบบแพลตฟอร์มกลางที่เป็น AI แชทบอทของจังหวัดที่จะเป็นพื้นที่ตัวอย่าง เกิดการนำไปใช้
ในการจัดทำแผนหรือยุทธศาสตร์ด้านสุขภาพจิตในระดับพื้นที่ให้เหมาะสมกับทุกช่วงวัย และเชื่อว่าหากมีพื้นที่ต้นแบบที่มีผลสำเร็จในการจัดการปัญหาสุขภาพจิต ก็จะทำให้จังหวัดอื่นๆ สนใจและอยากนำระบบฯ นี้ไปใช้งานต่อไป
..............................
 
ข้อมูลจาก
รูปภาพเพิ่มเติม
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เราใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดบนเว็บไซต์ของเรา โปรดศึกษาเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

จัดการความเป็นส่วนตัว
คุกกี้ที่มีความจำเป็น
(Strictly Necessary Cookies) เปิดใช้งานตลอด

คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ สวรส เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ สวรส. ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้