ข่าว/ความเคลื่อนไหว
นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข กับอีกบทบาทในฐานะประธานอนุกรรมการขับเคลื่อนและติดตามการดำเนินงานตามมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์และสาธารณสุข ขึ้นเวทีสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ รายงานความก้าวหน้าของการขับเคลื่อนมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติที่ผ่านมา ซึ่งในการรายงานความก้าวหน้าฯ มีประเด็นสำคัญในการดำเนินงานของภาคีเครือข่ายสุขภาพ อาทิ นโยบายการลดบริโภคเกลือและโซเดียม เพื่อลดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ด้านกระทรวงสาธารณสุขได้มีการขับเคลื่อนแผนทศวรรษการป้องกันและชะลอไตเสื่อม พ.ศ. 2565-2574 ซึ่งมีคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิต (พอช.) ที่ดำเนินการแล้ว 371 แห่ง โดยในจำนวนนี้มี พชอ.ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศจากการประกวดการป้องกันควบคุมโรคไตในชุมชน คือ พชอ.คีรีมาศ จังหวัดสุโขทัย รองลงมา ได้แก่ พชอ.แกดำ จังหวัดมหาสารคาม และ พชอ.เชียงคำ จังหวัดพะเยา โดยมี 5 ระบบและกลไกกระบวนการที่หนุนเสริมการขับเคลื่อนมาตรการหลัก ได้แก่ 1) การพัฒนาเครื่องมือนโยบายมาตรฐาน 2) การออกแบบ พัฒนานวัตกรรมโมเดล และขยายผลเชิงระบบ 3) การสนับสนุนการเฝ้าระวังสภาวะแวดล้อมทางกายภาพและสังคม 4) การพัฒนาระบบกำกับ ติดตาม และประเมินผลลัพธ์ 5) การพัฒนาระบบตัดสินใจ บริหาร และสนับสนุนการลงทุน ตลอดจนมีเครือข่ายสมัชชาสุขภาพจังหวัด 8 แห่ง ได้แก่ 1) ชัยนาท 2) น่าน 3) ตราด 4) กาญจนบุรี 5) มหาสารคาม 6) หนองบัวลำภู 7) สุราษฎร์ธานี 8) ยะลา ที่มีการจัดทำมาตรการทางสังคมเพื่อลดโรคไม่ติดต่ออย่างเป็นรูปธรรม
การกำจัดพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดีในประชาชน ด้านคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ได้จัดทำเป็นแผนงานมุ่งเป้าสำคัญ เพื่อให้ประเทศไทยปลอดโรคพยาธิใบไม้ตับ และไม่ตายจากมะเร็งท่อน้ำดี โดยมี 3 เป้าหมายหลัก 1) ลดความชุกของโรคพยาธิใบไม้ตับ ให้น้อยกว่า 10% ใน 2 ปี 2) สามารถวินิจฉัยโรคมะเร็งม่อน้ำดีตั้งแต่ระยะต้น มากกว่า 50% ใน 2 ปี 3) เพิ่มอัตราการรอดชีวิต มากกว่า 30% ใน 2 ปี
ทั้งนี้ภายในงานสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ปี 2568 ในภาคนิทรรศการ มีทั้งการนำเสนอข้อมูลการบริหารจัดการทุนวิจัยของ สวรส. คลังข้อมูลระบบสุขภาพแล้ว ยังมีการนำเสนอผลงานนวัตกรรมวิจัยที่ได้รับทุนสนับสนุนการวิจัยจาก สวรส. ที่มีชื่อว่า G-EOC ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่รวบรวมข้อมูลคน เงิน สิ่งของ และข้อมูลของทุกภาคส่วนไว้ในระบบเดียว เพื่อให้การสั่งการและการช่วยเหลือเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว และตรวจสอบได้ สามารถเชื่อมโยงประชาชน ทีมแพทย์ และศูนย์สั่งการ เพื่อการรับมือภัยพิบัติทางสุขภาพ ทั้งนี้จุดเด่นของ G-EOC คือ เป็นฐานข้อมูลกลางหนึ่งเดียวที่ทุกหน่วยงานสามารถเห็นข้อมูลที่ตรงกัน เห็นภาพรวมของภัยฉุกเฉินต่างๆ มีแผนที่ของกลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ผู้ป่วยติดเตียง ฯลฯ เพื่อการจัดสรรการช่วยเหลือได้ตรงจุด มีระบบการรายงานแบบ Dashboard และระบบแจ้งเตือนแบบทันเหตุการณ์ รองรับการตัดสินใจเชิงนโยบายและเชิงปฏิบัติ และเป็นฐานข้อมูลกลางที่สามารถเข้าถึงได้สะดวกทั้งประชาชน หน่วย EOC บุคลากรสาธารณสุข ฝ่ายปกครอง อาสาสมัครเอกชน โดยนวัตกรรมดังกล่าวได้มีการทดลองใช้งานจริงแล้วในพื้นที่นำร่อง จ.เชียงราย
คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น
คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ สวรส เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ สวรส. ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้