ข่าว/ความเคลื่อนไหว
วันที่ 12 พฤศจิกายน 2568 สวรส. โดย ผศ.ดร.จรวยพร ศรีศศลักษณ์ รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข ร่วมขับเคลื่อนแผนงานการสร้างจังหวัดเข้มแข็งโดยใช้พื้นที่เป็นฐานและการบูรณาการทุกภาคส่วนในการประชุมคณะกรรมการภาคีสานพลังพื้นที่เข้มแข็ง (ภสพ.) ครั้งที่ 12 ณ อาคารศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
ประธานการประชุม ศ.ดร.บรรเจิด สิงคะเนติ ได้กล่าวเปิดการประชุมและให้ทิศทางว่า
“จำเป็นต้องเตรียมประชาสังคมให้มีความพร้อมในตัวเอง ปัจจุบันประชาคมยังดำเนินการเป็นโครงการยังไม่มีโครงสร้างที่ชัดเจน จำเป็นต้องเตรียมตัวให้พร้อม เพื่อสร้างให้ประชาคมแก้ปัญหาประเด็นในเชิงพื้นที่ได้ด้วยตัวเอง ตลอดจนมีสุขภาวะที่ดี”
ขณะที่ ผศ.ดร.จรวยพร ศรีศศลักษณ์ กล่าวว่า “สวรส ทำหน้าที่สนับสนุนด้านวิชาการให้กับคณะกรรมการภาคีสานพลังพื้นที่เข้มแข็ง (ภสพ.) และเครือข่ายในโครงการภาคีอาสา 5 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย นครสวรรค์ ขอนแก่น ตราด พัทลุง” โดยมีการเลือกประเด็นในการสร้างความเข้มแข็งของภาคประชาสังคมในการแก้ไขปัญหาในจังหวัด เช่น เชียงรายเลือกประเด็นแก้ไขปัญหาสารปนเปื้อนแม่น้ำกก ซึ่ง สวรส. ได้สนับสนุนทุนวิจัยให้กับ ผศ.ดร.กรณ์ หุวะนันทน์ (นิด้า) ในการดำเนินโครงการประเมินผลเชิงพัฒนาคณะกรรมการภาคีสานพลังพื้นที่เข้มแข็งและเครือข่ายอาสาภาคีสานพลังพื้นที่เข้มแข็ง 5 จังหวัด ภายใต้โครงการเสริมสร้างจังหวัดเข้มแข็งโดยใช้พื้นที่เป็นฐานและบูรณาการทุกภาคส่วน โดยต้องการผลลัพธ์เป็นรูปแบบกลไกการขับเคลื่อนของภาคีอาสาและเครือข่ายภาคีสานพลังพื้นที่เข้มแข็งของจังหวัด สำหรับนำไปใช้ขยายผลอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งจำเป็นต้องมีทิศทางของคณะกรรมการภาคีสานพลังพื้นที่เข้มแข็ง (ภสพ.) ที่ชัดเจน เพื่อให้นักวิจัยสามารถดำเนินการตามกรอบวิจัยและวัดผลได้ ซึ่งทางทีมวิจัยได้นำเสนอกรอบวิจัย DE โดยใช้แนวทางการประเมินที่ฝังตัวอยู่ในกระบวนการพัฒนาเพื่อให้ข้อมูลย้อนกลับแก่คณะกรรมการ ภสพ.และพื้นที่ เพื่อช่วยในการตัดสินใจและปรับเปลี่ยนทิศทางของโครงการที่ยังไม่มีรูปแบบที่แน่นอน หรือมีความซับซ้อนและมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และใช้กรอบวิจัย Collaborative Governance ในการกำกับดูแลและการบริหารจัดการ ที่เน้นการร่วมมือกันจากการรวมตัวและการทำงานร่วมกันระหว่างหลายภาคส่วน เช่น ภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ภาควิชาการ ในการบริหารจัดการหรือขับเคลื่อนประเด็นสาธารณะหรือการพัฒนาพื้นที่
ทั้งนี้ การประเมินผล จำเป็นต้องมีคำถามวิจัยหรือกรอบการวิจัยที่ชัดเจน อันจะทำให้ได้ผลการประเมินที่ตรงประเด็นและน่าเชื่อถือ รวมถึงถอดบทเรียนหรือนำผลการประเมินดังกล่าว กลับไปคืนข้อมูลให้แก่พื้นที่เป็นระยะๆ เพื่อนำไปปรับปรุงพัฒนาต่อไป โดยรองผู้อำนวยการ สวรส. ได้กล่าวเน้นย้ำว่า วงจรที่สำคัญของดำเนินการประเมินและถอดบทเรียน คือ การใช้แนวคิด Design-Implementation-Governance และ INNE (Individual-Node-Network-Environment) เพื่อเสริมพลังการขับเคลื่อนความรู้ไปสู่การเปลี่ยนแปลงเชิงพื้นที่ โดยมีเป้าหมายในการสร้างความเข้มแข็งของภาคประชาสังคมในพื้นที่
นอกจากนี้ สสส. และ บริษัท Frontis ได้นำเสนอผลการถอดบทเรียนความสำเร็จในการสร้างกลไกการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ร่วมเพื่อผลลัพธ์เชิงพื้นที่ด้านสุขภาวะ จากประเทศชั้นนำ 4 ประเทศ (สหรัฐอเมริกา, สหราชอาณาจักร, ฟินแลนด์ และอินโดนีเซีย) ซึ่งพบว่าปัจจัยสำคัญสู่ความสำเร็จในการสร้างการมีส่วนร่วม คือ
1) โครงสร้างกำกับดูแลร่วม (shared governance)
2) ระบบนิเวศสุขภาพ (health ecosystem)
3) การขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (data-driven engine) และ
4) กลไกการเสริมพลังระดับพื้นที่ (local empowerment mechanism)
ก้าวต่อไป คณะกรรมการ ภสพ. และทีมวิจัยจะมุ่งมั่นในการนำกรอบวิจัยและบทเรียนความสำเร็จเหล่านี้ไปปฏิบัติอย่างเข้มข้น เพื่อให้ได้กลไกและทิศทางการขับเคลื่อนที่ชัดเจนสำหรับนำไปใช้ขยายผลในจังหวัดอื่น ๆ ทั่วประเทศ
คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น
คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ สวรส เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ สวรส. ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้