ชั้น 4 อาคารสุขภาพแห่งชาติ เลขที่ 88/39 ถ.ติวานนท์ 14 ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
ขนาดตัวอักษร
-
+
ความตัดกันของสี
C
C
C
icon-lang-thภาษาไทย
ค้นหา
เมนู
จำนวนผู้อ่าน : 33 คน
การศึกษาการกลายพันธุ์ของยีนด้วยวิธีการตรวจหาลำดับเบสของเอ็กโซมในกลุ่มอาการเนโฟรติกที่ไม่ตอบสนองต่อยาสเตียรอยด์และภาวะไตอักเสบที่สงสัยการถ่ายทอดทางพันธุกรรมในผู้ป่วยเด็กไทย ปีที่ 2
นักวิจัย :
สุขเกษม โฆษิตเศรษฐ , อนิรุธ ภัทรากาญจน์ , นันทวัน ปิยะภาณี , ปวรี ศรัยสวัสดิ์ , สุวรรณี วิษณุโยธิน , กุลวิภา ตันทนะเทวินทร์ , ณัฐิดา พงศ์วิไลรัตน์ , ภาคภูมิ ภูมิจิตร , สุรัสวดี พิทักษ์ลิมนุวงศ์ , กิติวรรณ โรจนเนืองนิตย์ ,
ปีพิมพ์ :
2568
สนับสนุนโดย :
สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข
วันที่เผยแพร่ :
20 ตุลาคม 2568

ที่มา กลุ่มอาการเนโฟรติกแบบปฐมภูมิเป็นโรคไตที่พบบ่อยที่สุดในผู้ป่วยเด็ก การกลายพันธุ์ของยีนก่อโรคเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดโรคนี้ในผู้ป่วยเด็กแรกเกิดและเด็กที่ไม่ตอบสนองต่อยากดภูมิคุ้มกัน ส่วนภาวะเม็ดเลือดแดงรั่วในปัสสาวะเรื้อรังที่เกิดจากการกลายพันธุ์ของยีนก่อโรค (hereditary glomerulopathies) มักทำให้เกิดภาวะไตวายเรื้อรัง ปัจจุบันการตรวจทางพันธุศาสตร์ด้วยวิธี whole exome sequencing (WES) เพื่อค้นหาการกลายพันธุ์ของยีนก่อโรคยังไม่แพร่หลายในประเทศไทย เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายสูงและไม่สามารถเบิกจ่ายจากกองทุนสุขภาพทุกกองทุน คณะผู้วิจัยจึงทำการศึกษาแบบสหสถาบันเพื่อตรวจ WES ในผู้ป่วยกลุ่มนี้เพื่อเป็นข้อมูลของผู้ป่วยเด็กไทย วัตถุประสงค์ 1) ตรวจ WES ในกลุ่มผู้ป่วยเด็กไทยที่เป็นโรคเนโฟรติกแบบปฐมภูมิที่สงสัยว่าเกิดจากการกลายพันธุ์ของยีนและกลุ่มผู้ป่วยเด็กที่มีเม็ดเลือดแดงรั่วในปัสสาวะเรื้อรังที่สงสัยว่าเกิดจากการกลายพันธุ์ของยีน 2) กำหนดข้อบ่งชี้ในการตรวจ WES ที่เหมาะสมกับบริบทของประเทศไทยให้กับองค์กรวิชาชีพและสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เพื่อให้ผู้ป่วยเด็กที่มีภาวะดังกล่าวได้รับสิทธิประโยชน์ในการเบิกจ่าย วิธีการศึกษา การศึกษาแบบสหสถาบันในโรงพยาบาล 14 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่เขตสุขภาพทั่วประเทศไทย ทำการตรวจ WES ให้แก่ผู้ป่วยเด็กที่เป็นโรคเนโฟรติกและผู้ป่วยเด็กที่มีเม็ดเลือดแดงรั่วในปัสสาวะเรื้อรังตามเกณฑ์คัดเลือกที่เหมาะสมกับบริบทของประเทศไทย หากพบการกลายพันธุ์ของยีนก่อโรคจะทำการตรวจยืนยันลำดับเบสที่ผิดปกติในผู้ป่วย บิดา มารดา ด้วยวิธี Sanger sequencing ผลการศึกษา ผู้ป่วยทั้งหมด 20 ราย อายุระหว่างแรกเกิดถึง 18 ปี เพศชาย 13 ราย เพศหญิง 7 ราย เป็นกลุ่มโรคเนโฟรติกจำนวน 9 ราย กลุ่มเม็ดเลือดแดงรั่วในปัสสาวะเรื้อรังจำนวน 11 ราย ได้รับการตรวจ WES ระหว่างวันที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2567 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2568 เป็น congenital NS 3 ราย infantile NS 2 ราย childhood 4 ราย พบการกลายพันธุ์ของยีนก่อโรคในผู้ป่วย 8 ราย โดย congenital NS พบการกลายพันธุ์ของยีนทั้ง 3 ราย คิดเป็นร้อยละ 100 คือยีน NPHS1 และ LAMB2 ส่วน infantile NS 2 ราย พบการกลายพันธุ์ของยีน CFI 1 ราย คิดเป็นร้อยละ 50 ส่วน childhood NS พบการกลายพันธุ์ของยีน 2 ราย คือ TRPC6 และ WT1 คิดเป็นร้อยละ 50 เทียบเคียงได้กับการศึกษาจากต่างประเทศ ส่วนกลุ่มเม็ดเลือดแดงรั่วในปัสสาวะเรื้อรังพบการกลายพันธุ์ของยีน COL4A5 ก่อโรค Xlinked Alport syndrome ในผู้ป่วย 8 รายคิดเป็นร้อยละ 73 การศึกษาครอบคลุมเขตสุขภาพทั่วประเทศนี้แสดงค่าใช้จ่ายในการตรวจ WES ในผู้ป่วยกลุ่มนี้จำนวน 500,000 บาทต่อปี บทสรุป เกณฑ์การคัดเลือกผู้ป่วยกลุ่มนี้เพื่อทำการตรวจ WES ในการศึกษานี้เหมาะสมกับบริบทในประเทศไทย สามารถใช้เป็นข้อบ่งชี้ในการตรวจ WES ให้มีสิทธิประโยชน์ในการเบิกจ่าย


ลิงก์ต้นฉบับ : https://kb.hsri.or.th/dspace/handle/11228/6356

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เราใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดบนเว็บไซต์ของเรา โปรดศึกษาเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

จัดการความเป็นส่วนตัว
คุกกี้ที่มีความจำเป็น
(Strictly Necessary Cookies) เปิดใช้งานตลอด

คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ สวรส เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ สวรส. ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้