ชั้น 4 อาคารสุขภาพแห่งชาติ เลขที่ 88/39 ถ.ติวานนท์ 14 ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
ขนาดตัวอักษร
-
+
ความตัดกันของสี
C
C
C
icon-lang-thภาษาไทย
ค้นหา
เมนู
จำนวนผู้อ่าน : 14 คน
แนวโน้มการสั่งยาและผลลัพธ์ทางคลินิกของยากลุ่มสแตตินเพื่อป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจแบบปฐมภูมิในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ในโรงพยาบาลชุมชน จังหวัดลำปาง
นักวิจัย :
นันท์นภัส อภิสิทธิเกษม , เพ็ญกาญจน์ กาญจนรัตน์ , สกนธ์ สุภากุล ,
ปีพิมพ์ :
2568
สนับสนุนโดย :
สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข
วันที่เผยแพร่ :
25 กันยายน 2568

ภูมิหลังและเหตุผล: โรคเบาหวานชนิดที่ 2 เพิ่มโอกาสการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด เนื่องจากโรคเบาหวานจะมีกระบวนการเมทาบอลิซึมของไขมันที่ผิดปกติ โดยมีระดับไตรกลีเซอไรด์และคอเลสเตอรอลชนิดความหนาแน่นต่ำที่สูง จึงทำให้มีโอกาสเกิดการอุดตันของหลอดเลือดตามมา ควรป้องกันแบบปฐมภูมิโดยใช้ยาในกลุ่มสแตติน ดังนั้นจึงศึกษาแนวโน้มอัตราการสั่งใช้ยา atorvastatin และ simvastatin ครั้งแรก เพื่อป้องกันการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดแบบปฐมภูมิในผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 และศึกษาผลของการเปลี่ยนยา atorvastatin จากบัญชี ง เป็นบัญชี ข ต่ออัตราการสั่งใช้ยากลุ่มสแตติน อุบัติการณ์ของโรคหัวใจและหลอดเลือด และอาการไม่พึงประสงค์จากยากลุ่มสแตติน ระเบียบวิธีศึกษา: ทำการศึกษาในผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ที่เข้ารับบริการในโรงพยาบาลชุมชน จังหวัดลำปาง ในช่วงปีงบประมาณ 2561–2565 จาก Health Data Center กระทรวงสาธารณสุข โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 ศึกษาแนวโน้มอัตราการสั่งใช้ยา atorvastatin และ simvastatin ครั้งแรกเพื่อป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดแบบปฐมภูมิ รูปแบบการวิจัย interrupted time series analysis ส่วนที่ 2 ศึกษาอุบัติการณ์ของโรคหัวใจและหลอดเลือดใน 1 ปี และอาการไม่พึงประสงค์ เปรียบเทียบระหว่าง atorvastatin กับ simvastatin ด้วยวิธี retrospective cohort study อุบัติการณ์ของโรคหัวใจและหลอดเลือดใน 1 ปี คำนวณเป็นรายต่อ 1,000 คน-วัน และอาการไม่พึงประสงค์เปรียบเทียบระหว่าง atorvastatin กับ simvastatin นำเสนอข้อมูลเป็นร้อยละ ผลการศึกษา: ผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ในช่วงปีงบประมาณ 2561–2565 ทั้งหมด 5,200 คน ได้รับยาสแตตินครั้งแรก มีจำนวน 662 คน ความชุกของการสั่งยาสแตตินคือร้อยละ 12.8 สัดส่วนการสั่งยาสแตตินมากที่สุดคือ simvastatin 20 mg, simvastatin 10 mg และ atorvastatin 40 mg ตามลำดับ หลังจากที่มีการปรับบัญชียา atorvastatin จากบัญชี ง เป็นบัญชี ข ส่งผลให้อัตราการสั่งยา simvastatin 10 mg และ atorvastatin 40 mg ครั้งแรกในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 รายใหม่เพิ่มขึ้นคือ ร้อยละ 19.2 และ ร้อยละ 10.5 ตามลำดับ ทั้งนี้อัตราการสั่งยา simvastatin 20 mg ลดลงร้อยละ 4.3 เมื่อเปรียบเทียบกับก่อนการใช้นโยบายฯ (p-value > 0.05) และอุบัติการณ์ของโรคหัวใจและหลอดเลือดใน 1 ปีในผู้ป่วยที่ได้รับยา atorvastatin 40 mg และ simvastatin 10 หรือ 20 mg เท่ากับ 0.00671 และ 0.00896 ต่อ 1,000 คน-วัน อัตราส่วนอุบัติการณ์ เท่ากับ 0.75 (95%CI 0.02-4.68) สรุปผลการศึกษา: การวิจัยนี้พบอัตราการสั่งยาสแตตินเพื่อป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดแบบปฐมภูมิในระดับต่ำ ไม่พบผลของการปรับบัญชียา atorvastatin จากบัญชี ง เป็นบัญชี ข ต่อการสั่งยา atorvastatin 40 mg, simvastatin 10 mg และ simvastatin 20 mg และพบอุบัติการณ์ของโรคหัวใจขาดเลือดใน 1 ปี ในผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ที่ได้รับยากลุ่มสแตตินอยู่ในระดับต่ำมาก


ลิงก์ต้นฉบับ : https://kb.hsri.or.th/dspace/handle/11228/6343

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เราใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดบนเว็บไซต์ของเรา โปรดศึกษาเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

จัดการความเป็นส่วนตัว
คุกกี้ที่มีความจำเป็น
(Strictly Necessary Cookies) เปิดใช้งานตลอด

คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ สวรส เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ สวรส. ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้