ชั้น 4 อาคารสุขภาพแห่งชาติ เลขที่ 88/39 ถ.ติวานนท์ 14 ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
ขนาดตัวอักษร
-
+
ความตัดกันของสี
C
C
C
icon-lang-thภาษาไทย
ค้นหา
เมนู
จำนวนผู้อ่าน : 19 คน
การวิจัยผสานวิธีเพื่อค้นหาปัจจัยเชิงสาเหตุของการใช้แอปพลิเคชันสุขภาพและแนวทางการออกแบบแอปพลิเคชันสุขภาพเพื่อการเข้าถึงบริการสุขภาพของประชาชน
นักวิจัย :
วิไลลักษณ์ ลังกา , นริสรา พึ่งโพธิ์สภ , อรอุมา เจริญสุข , ศิวลาภ สุขไพบูลย์วัฒน์ ,
ปีพิมพ์ :
2568
สนับสนุนโดย :
สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข
วันที่เผยแพร่ :
29 กันยายน 2568

การวิจัยผสานวิธีครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อศึกษาสถานการณ์การใช้แอปพลิเคชันสุขภาพ และปัจจัยเชิงสาเหตุทั้งที่ส่งเสริมและอุปสรรคของการใช้แอปพลิเคชันสุขภาพของคนไทยสำหรับจัดทำข้อเสนอการออกแบบแอปพลิเคชันสุขภาพเพื่อการเข้าถึงบริการสุขภาพสำหรับคนไทยกลุ่มต่าง ๆ ข้อค้นพบสำคัญ มีดังนี้ ระยะที่ 1 การวิจัยเชิงปริมาณเพื่อสำรวจสถานการณ์การใช้แอปพลิเคชันสุขภาพ และปัจจัยเชิงสาเหตุความรอบรู้ด้านสุขภาพดิจิทัลที่มีต่อการใช้แอปพลิเคชันสุขภาพของคนไทย สถานการณ์การใช้แอปพลิเคชันสุขภาพของคนไทย พบว่า ร้อยละ 70.62 ของคนไทยมีการติดตั้งแอปพลิเคชันสุขภาพ โดย Gen Z เป็นผู้ใช้มากที่สุด (ร้อยละ 87.7) “หมอพร้อม” เป็นแอปพลิเคชันสุขภาพที่ได้รับความนิยมสูงสุด (ร้อยละ 75.46) ส่วนใหญ่ใช้เพื่อบันทึกข้อมูลสุขภาพ (ร้อยละ 43.58) และตรวจสอบสิทธิการรักษา (ร้อยละ 41.53) อุปสรรคหลักของการไม่ใช้แอปพลิเคชันสุขภาพ ได้แก่ ไม่มีความรู้ในการใช้ (ร้อยละ 44.07) และไม่มีเวลา (ร้อยละ 36.85) คุณสมบัติของแอปพลิเคชันสุขภาพที่ทำให้คนใช้มากที่สุด คือ เข้าถึงสะดวก (ร้อยละ 39.65) และใช้งานง่าย (ร้อยละ 34.14) ส่วนปัจจัยเชิงสาเหตุของ การใช้แอปพลิเคชันสุขภาพ พบว่า ความรอบรู้ด้านสุขภาพดิจิทัล มีอิทธิพลทางตรงต่อพฤติกรรมการใช้แอปพลิเคชันสุขภาพมากที่สุด (สัมประสิทธิ์อิทธิพล เท่ากับ 0.63) ปัจจัยทางสังคม และความคาดหวังต่อแอปพลิเคชัน มีอิทธิพลทางตรงเท่ากัน (สัมประสิทธิ์อิทธิพล เท่ากับ 0.16) ระยะที่ 2 การวิจัยเชิงคุณภาพเพื่อทำความเข้าใจประสบการณ์การใช้แอปพลิเคชันสุขภาพรวมทั้งปัจจัยส่งเสริมและปัจจัยขัดขวางของการใช้แอปพลิเคชันสุขภาพของคนไทย คนไทยใช้แอปพลิเคชันสุขภาพเพราะมีความเชื่อ 5 ประการ ได้แก่ (1) เชื่อว่ามีประโยชน์ (2) เชื่อว่าเป็นภารกิจที่ต้องทำ (3) เชื่อว่าจำเป็นและตอบสนองความต้องการ (4) เชื่อว่าให้คำตอบได้รวดเร็ว (5) เชื่อมั่นว่าพัฒนาจากรัฐบาล ส่วนการให้คุณค่าและความสำคัญของการใช้แอปพลิเคชันสุขภาพ มี 3 ประเด็น ได้แก่ (1) แอปพลิเคชันที่สร้างความน่าเชื่อถือให้ผู้ใช้ (2) แอปพลิเคชันที่ทำให้ชีวิตง่ายขึ้น สะดวกสบาย ประหยัดเวลา และ (3) แอปพลิเคชันที่มีติดตัวไว้ให้อุ่นใจ ปัจจัยส่งเสริมการใช้แอปพลิเคชันสุขภาพ มี 7 ประเด็น ได้แก่ (1) มีการเข้าถึงได้หลากหลายช่องทาง (2) มีระบบการจัดการความปลอดภัยของข้อมูล (3) สารสนเทศต้องน่าเชื่อถือ (4) มีศูนย์รวมแอปพลิเคชันสุขภาพ (5) มีการประชาสัมพันธ์แอปพลิเคชันอย่างทั่วถึง (6) กำหนดให้เป็นแอปพลิเคชันหลักที่ทุกคนต้องมีติดตัว และ (7) ออกแบบแอปพลิเคชันให้ประทับใจผู้ใช้ ส่วนปัจจัยขัดขวางการใช้แอปพลิเคชันสุขภาพ มี 7 ประเด็น ได้แก่ (1) ไม่เห็นความจำเป็นของการใช้ (2) ไม่เคยได้ยิน/ไม่รู้จัก (3) ไม่เป็นหนึ่งเดียวกัน "กระจัดกระจาย" (4) ไม่มั่นใจในความปลอดภัย (5) ไม่เป็นมิตรต่อการใช้ (6) มีทางเลือกอื่นที่ดีกว่า และ (7) มีข้อจำกัดด้านอุปกรณ์ ระยะที่ 3 ข้อเสนอการออกแบบแอปพลิเคชันสุขภาพเพื่อการเข้าถึงบริการสุขภาพของคนไทยกลุ่มต่าง ๆ แนวทางการพัฒนาแอปพลิเคชันสุขภาพเพื่อการเข้าถึงบริการสุขภาพของคนไทยกลุ่มต่าง ๆ แบ่งออกเป็น 4 มิติ 8 กลยุทธ์ (1) มิติการออกแบบส่วนติดต่อผู้ใช้ที่ตอบโจทย์ความต้องการ ประกอบด้วย ออกแบบแอปพลิเคชันที่รองรับความต้องการและเป็นมิตรกับผู้ใช้ (2) มิติการพัฒนาระบบที่ปลอดภัยและเชื่อมต่อ ประกอบด้วย ออกแบบระบบที่ปลอดภัย และคุ้มครองความเป็นส่วนตัว เชื่อมต่อกับระบบสุขภาพส่วนกลาง และสร้างเอกลักษณ์ให้น่าเชื่อถือและจดจำง่าย (3) มิติการนำเสนอข้อมูลที่ถูกต้องและเข้าใจง่าย ประกอบด้วย ออกแบบเนื้อหาที่มีหลักฐานทางการแพทย์รองรับ และ (4) มิติการสร้างกลไกที่เหมาะกับบริบทผู้ใช้ ประกอบด้วย ออกแบบระบบที่สร้างแรงจูงใจในการใช้งาน และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของผู้ใช้ กระบวนการพัฒนาแอปพลิเคชันสุขภาพอย่างยั่งยืน มี 5 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นที่ 1 พัฒนาโดยเข้าใจความต้องการผู้ใช้ ขั้นที่ 2 ทดสอบกับกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลายครอบคลุมทุกช่วงวัยและระดับความคุ้นเคยกับเทคโนโลยี ขั้นที่ 3 บูรณาการกับระบบสุขภาพที่มีอยู่โดยเชื่อมโยงกับฐานข้อมูลสุขภาพแห่งชาติอย่างปลอดภัย ขั้นที่ 4 วางแผนการเปิดตัวและประชาสัมพันธ์ ใช้กลยุทธ์ดิจิทัลผ่านผู้มีอิทธิพลและโซเชียลมีเดีย และขั้นที่ 5 ประเมินผลเพื่อพัฒนาอย่างต่อเนื่องโดยรับฟังข้อเสนอแนะ และมีแผนพัฒนาระยะยาวที่ชัดเจน กล่าวโดยสรุป ข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อพัฒนาแอปพลิเคชันสุขภาพอย่างยั่งยืน คือ 1) สร้างศูนย์รวมแอปพลิเคชันสุขภาพ เพื่อลดความกระจัดกระจายและสร้างมาตรฐาน 2) พัฒนาทักษะความรอบรู้ด้านสุขภาพดิจิทัลโดยเฉพาะกลุ่ม Gen X และ Baby Boomer 3) กำหนดมาตรฐานความปลอดภัยข้อมูลเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการใช้งาน และ 4) ส่งเสริมการพัฒนาแอปพลิเคชันที่ใช้งานง่ายโดยออกแบบตามหลัก user-friendly เข้าถึงได้ทุกกลุ่มวัย ข้อค้นพบจากการศึกษานี้จะช่วยยกระดับคุณภาพแอปพลิเคชันสุขภาพในประเทศไทย และส่งเสริมการเข้าถึงบริการสุขภาพผ่านช่องทางดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ


ลิงก์ต้นฉบับ : https://kb.hsri.or.th/dspace/handle/11228/6347

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เราใช้คุกกี้เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดบนเว็บไซต์ของเรา โปรดศึกษาเพิ่มเติมที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว
ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

จัดการความเป็นส่วนตัว
คุกกี้ที่มีความจำเป็น
(Strictly Necessary Cookies) เปิดใช้งานตลอด

คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ สวรส เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ สวรส. ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้